ข้อมูล ณ วันที่ : 31 พฤษภาคม 2563

ที่อยู่

9 อเวนิว กิวโลม, แอล-1651 ลักเซมเบิร์ก ประเทศเบลเยียม
โทรศัพท์ : + 352 264 585 23
โทรสาร : + 352 264 417 99
Company Registration Number : B114218

ลักษณะการประกอบธุรกิจ

บริษัท คาร์มิวส์ โฮลดิ้ง เอสเอ เป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศลักเซมเบิร์ก และเป็นบริษัทแม่ของบริษัทในเครือคาร์มิวส์ ทั้งหมด โดยเป็นผู้ผลิตปูนขาว และ ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับปูนขาว ด้วยประสบการณ์ที่มีมากกว่า 160 ปี ส่งผลให้ บริษัท คาร์มิวส์ โฮลดิ้ง เอสเอ มีความชำนาญในขั้นตอนการสกัดหินปูนและหินโดโลไมท์ เพื่อนำผลิตภัณฑ์ที่ได้ไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจในเชิงพาณิชย์ บริษัท คาร์มิวส์ โฮลดิ้ง เป็นผู้ผลิตที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ด้วยขั้นตอนและกรรมวิธีการผลิตที่มีคุณภาพ และทันสมัย รวมทั้งบริษัทได้คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ เพื่อที่จะมุ่งมั่นให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ทำให้บริษัท คาร์มิวส์ โฮลดิ้ง เป็นผู้นำในตลาดของอุตสาหกรรมปูนขาว บริษัท คาร์มิวส์ โฮลดิ้ง ลงทุนผ่านบริษัทย่อย พันธมิตรทางธุรกิจ และในตลาดหลักทรัพย์หลายประเทศทั่วโลก อาทิ เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม ลักเซมเบิร์ก อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ ตุรกี กานา สหรัฐอเมริกา แคนาดา โรมาเนีย ฮังการี บอสเนีย เซอร์เบีย สาธารณรัฐเช็ก สโลวาเกีย โอมาน และประเทศไทย

กลุ่มบริษัท คาร์มิวส์มีประวัติอันยาวนานและเข้มแข็ง ซึ่งเริ่มตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ.1860 ในช่วงระหว่างยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม โดยผู้ก่อตั้งบริษัทคือ นายลีออง คอลลิเนต (Mr. L?on Collinet) เป็นชาวเบลเยียมที่เริ่มจากการสร้างธุรกิจเหมืองหินปูนในครอบครัว โดยเติบโตจากการรวบรวมเหมืองหินปูนหลายแห่งเข้ามาอยู่ในกลุ่มเดียวกัน แล้วสามารถฟันฝ่าสงครามและวิกฤตในยุคศตวรรษที่ 20 จนกลายเป็นหนึ่งในผู้นำของอุตสาหกรรมปูนขาวของประเทศเบลเยียม และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิตปูนขาวและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับปูนขาวของโลกมาได้จวบจนวันนี้

ในตอนต้นศตวรรษที่ 80 บริษัท คาร์มิวส์ โฮลดิ้ง ได้ขยายธุรกิจออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านเป็นครั้งแรก อาทิเช่น ประเทศฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และ อิตาลี ภายหลังจากนั้นไม่นาน ธุรกิจของบริษัท คาร์มิวส์ โฮลดิ้ง เอสเอ ได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและได้ขยายธุรกิจออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศแคนาดา ตลอดช่วงยุค 90 บริษัท คาร์มิวส์ โฮลดิ้ง ยังคงขยายธุรกิจออกไปยังต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น ประเทศตุรกี และ ประเทศในแถบทวีปแอฟริกาตะวันตก และ ในช่วงเปลี่ยนถ่ายศตวรรษ บริษัท คาร์มิวส์ โฮลดิ้ง ยังดำเนินการขยายธุรกิจไปยัง ประเทศในแถบทวีปยุโรปตอนกลาง และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้ขยายไปสู่เอเชียตะวันออกกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ในปัจุบัน CH เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ของโลกในภาคอุตสาหกรรมการผลิตปูนขาว และ ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถตอบสนองความต้องการได้หลากหลาย ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท คาร์มิวส์ โฮลดิ้ง ได้แก่ ปูนขาวที่มีแคลเซียมสูง และปูนขาวที่มีส่วนผสมของโมเลกุลของน้ำรวมอยู่ รวมทั้งปูนโดโลไมท์ และปูนโดโลไมท์ที่มีส่วนผสมของโมเลกุลของน้ำรวมอยู่ ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถนำไปใช้ได้ในหลากหลายอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ รวมทั้งสามารถนำไปใช้ในภาคธุรกิจและเชิงพาณิชย์ โดยสามารถจำแนกได้ตามประเภทอุตสาหกรรม ดังนี้ อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า อุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมบำบัดขยะและน้ำเสีย อุตสาหกรรมเคมี อุตสาหกรรมกระดาษ อุตสาหกรรมด้านพลังงาน อุตสาหกรรมผลิตกระจก นอกเหนือจากนั้น บริษัท คาร์มิวส์ โฮลดิ้ง มีการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์หินปูนขาวชนิดผง และผลิตภัณฑ์หินปูนโดโลไมท์ ซึ่งเป็นส่วนผสมของคอนกรีตที่ใช้สำหรับงานก่อสร้างถนน ปูนซิเมนต์

CH ยังได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทโดยได้พัฒนาตัวเร่งปฏิกริยาของแคลเซียมคาร์บอเนต ระบบควบคุมการปล่อยก๊าซจากปล่องไฟ และบำบัดน้ำเสีย และอื่นๆ เป็นต้น

ทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว

CH มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 157,089,100 ยูโร มีมูลค่าที่ตราไว้ (Par value) เท่ากับ 350 ยูโรต่อหุ้น ซึ่งเป็นหุ้นสามัญทั้งหมดจำนวน 448,826 หุ้น

ผู้ถือหุ้นของบริษัท

รายชื่อผู้ถือหุ้นของ CH ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2563 มีจำนวนหุ้นสามัญส่วนใหญ่รูปแบบของใบหุ้น ชนิดออกให้แก่ผู้ถือ (Bearer Form) โดยประเทศลักเซมเบิร์กมีกฎหมายกำหนดให้ผู้ถือใบหุ้นชนิดออกให้แก่ผู้ถือแต่งตั้งผู้รับฝากใบหุ้น (Depository) ซึ่งจะถือหุ้นดังกล่าวเพื่อประโยชน์ของเจ้าของใบหุ้นชนิดออกให้แก่ผู้ถือหุ้นดังกล่าว อย่างไรก็ดี ผู้รับฝากใบหุ้นมีหน้าที่รักษาความลับและไม่สามารถเปิดเผยชื่อของผู้เป็นเจ้าของใบหุ้นเหล่านี้ได้ เว้นแต่เป็นการเปิดเผยต่อหน่วยงานราชการที่กำหนดของประเทศลักเซมเบิร์กและเฉพาะในกรณีที่กฎหมายระบุไว้เท่านั้น

จากข้อมูลคำเสนอซื้อของ บริษัท ซีอี ไลม์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ทำคำเสนอซื้อได้รับการยืนยันจากบริษัท คาร์มิวส์ โฮลดิ้ง ว่า ในการดำเนินการตามขั้นตอนเกี่ยวกับการพิสูจน์ทราบลูกค้า (know-your-customer (KYC) requirements) ในส่วนที่เกี่ยวกับบริษัท คาร์มิวส์ โฮลดิ้ง และบริษัทที่อยู่ในเครือ ธนาคารได้ตรวจสอบกับผู้รับฝากใบหุ้นเพื่อให้ยืนยันการได้รับแต่งตั้งให้รับฝากใบหุ้นและจำนวนหุ้นที่รับฝากไว้ ซึ่งศูนย์รับฝากใบหุ้นก็ได้ยืนยันว่าได้รับฝากใบหุ้นของบริษัท คาร์มิวส์ โฮลดิ้งจริง อย่างไรก็ตาม ผู้รับฝากใบหุ้นไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อของผู้เป็นเจ้าของใบหุ้นได้ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น และธนาคารได้ยอมรับข้อมูลในลักษณะดังกล่าวเป็นหลักฐานในการแสดงตัวตนตามขั้นตอนเกี่ยวกับการพิสูจน์ทราบลูกค้าในส่วนที่เกี่ยวกับโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัท คาร์มิวส์ โฮลดิ้ง เอสเอ

ตามข้อมูลของผู้ทำคำเสนอซื้อ ทายาทของลูกหลานของนายลีออง คอลลิเนต มีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท คาร์มิวส์ โฮลดิ้ง ทั้งทางตรงและทางอ้อมมากกว่าร้อยละ 60.00 ของหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท คาร์มิวส์ โฮลดิ้ง ซึ่งอยู่ในรูปแบบของใบหุ้น นอกจากนี้ บริษัท โคเบปา เอสเอ (Cobepa S.A.) ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่ดำเนินธุรกิจในด้านการลงทุน และมีทรัพย์สินที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการประมาณ 1,800 ล้านยูโร มีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท คาร์มิวส์ โฮลดิ้ง ในอัตราส่วนเท่ากับร้อยละ 20.00 ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด ซึ่งบริษัท โคเบปา มีถิ่นฐานอยู่ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม และ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

บริษัท ลิเมลักซ์ เอสเอ (Limelux S.A.) ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศลักเซมเบิร์ก และดำเนินธุรกิจในด้านการลงทุน มีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท คาร์มิวส์ โฮลดิ้ง ในอัตราส่วนเท่ากับร้อยละ 4.00 ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด

ผู้ถือหุ้นรายย่อยและสถาบันถือหุ้นสามัญในส่วนที่เหลือในบริษัท คาร์มิวส์ โฮลดิ้ง ตามข้อมูลของผู้ทำคำเสนอซื้อ นอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ไม่มีผู้ถือหุ้นรายย่อยและสถาบันรายใดมีหุ้นของบริษัท คาร์มิวส์ โฮลดิ้ง ในสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 3.00 ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม และมีสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้นที่มุ่งปกป้องสิทธิของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย ซึ่งไม่มีบริษัทใดในกลุ่มบริษัทคาร์มิวส์เป็นคู่สัญญา ตามข้อมูลของผู้ทำคำเสนอซื้อ ทายาทของลูกหลานของนายลีออง คอลลิเนต บริษัท โคเบปา และ บริษัท ลิเมลักซ์ ไม่มีการถือหุ้นไขว้ระหว่างกัน

คณะกรรมการบริษัท

รายชื่อคณะกรรมการ บริษัท คาร์มิวส์ โฮลดิ้ง เอสเอ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2563

ข้อมูล ณ วันที่ : 31 พฤษภาคม 2563

ที่อยู่

9 อเวนิว กิวโลม, แอล-1651 ลักเซมเบิร์ก
โทรศัพท์ : + 352 264 585 23
โทรสาร : + 352 264 417 99
เลขที่จดทะเบียนบริษัท : B165367

ลักษณะการประกอบธุรกิจ

บริษัท คาร์มิวส์ มิดเดิ้ล อีส แอนด์ เอเชีย เอสเอ เป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศลักเซมเบิร์ก และเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นทั้งหมดโดยบริษัท คาร์มิวส์ โฮลดิ้ง เอสเอ โดยที่บริษัท คาร์มิวส์ มิดเดิ้ล อีส แอนด์ เอเชีย ถูกจัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาโอกาสในการลงทุนในธุรกิจปูนขาวและหินปูนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง บริษัท คาร์มิวส์ มิดเดิ้ล อีส แอนด์ เอเชีย มีสาขาอยู่ในเมืองดูไบเพื่อทำกิจการค้าขายผลิตภัณฑ์ปูนขาวในประเทศแถบตะวันออกกลางและอินเดีย และมีหุ้นในบริษัทมาจาน ไมนิ่ง จำกัด ในอัตราส่วนเท่ากับร้อยละ 10.00 ของหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมด โดยบริษัท มาจาน ไมนิ่ง จำกัด มีเหมืองหินปูนตั้งอยู่ที่เมืองซาลาลาห์ ประเทศโอมาน บริษัท คาร์มิวส์ มิดเดิ้ล อีส แอนด์ เอเชีย ยังเป็นผู้ถือหุ้นในอัตราส่วนเท่ากับร้อยละ 51.00 ของหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท คาร์มิวส์ มาจาน จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองซาลาลาห์ ประเทศโอมาน และเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตปูนขาว ในปี 2558 บริษัท คาร์มิวส์ มิดเดิ้ล อีส แอนด์ เอเชีย เอสเอ ได้ลงทุนในบริษัท คาร์มิวส์ อีสเทิร์น พีทีอี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่มีถิ่นฐานอยู่ที่ประเทศสิงค์โปร์ ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้กับ บริษัท คาร์มิวส์ โฮลดิ้ง เอสเอ

ทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว

CMEA มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 23,000,000 ยูโร มีมูลค่าที่ตราไว้ (Par value) เท่ากับ 100 ยูโรต่อหุ้น ซึ่งเป็นหุ้นสามัญทั้งหมดจำนวน 230,000 หุ้น

ผู้ถือหุ้นของบริษัท

ถือหุ้นทั้งหมดโดยบริษัท คาร์มิวส์ โฮลดิ้ง เอสเอ

คณะกรรมการบริษัท

รายชื่อคณะกรรมการ ของ CMEA ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2563 มีดังนี้

ข้อมูล ณ วันที่ : 31 พฤษภาคม 2563

ที่อยู่

24 แร็ฟโฟลส์ เพลส, #18-00 คลิฟฟอร์ด เซ็นเตอร์, สิงคโปร์ 048621
โทรศัพท์ : +65 6533 2323
โทรสาร : +65 6533 7029
เลขที่จดทะเบียนบริษัท : 201220139W

ลักษณะการประกอบธุรกิจ

บริษัท คาร์มิวส์ อีสเทิร์น พีทีอี จำกัด เป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ ที่ก่อตั้งโดย บริษัท คาร์มิวส์ มิดเดิ้ล อีส แอนด์ เอเชีย เอสเอ และบริษัท อีสเทิร์น เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาโอกาสทางธุรกิจและการลงทุนในภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลาง วัตถุประสงค์หลักของ CE คือการถือหุ้นในบริษัท เอเชีย ไลม์ พีทีอี จำกัด(“ALS”) เพื่อการลงทุนของกลุ่มบริษัทในภูมิภาคนี้

ทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว

CE มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 17,899,510 เหรียญสหรัฐ มีมูลค่าที่ตราไว้ (Par value) เท่ากับ 1 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น ซึ่งเป็นหุ้นสามัญทั้งหมดจำนวน 17,899,510 หุ้น

ผู้ถือหุ้นของบริษัท

รายชื่อผู้ถือหุ้นของ CE ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2563 มีดังนี้

คณะกรรมการบริษัท

รายชื่อคณะกรรมการ ของ CE ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 มีดังนี้

ข้อมูล ณ วันที่ : 31 พฤษภาคม 2563

ที่อยู่

24 แร็ฟโฟลส์ เพลส, เลขที่18-00 คลิฟฟอร์ด เซ็นเตอร์, สิงคโปร์ 048621
โทรศัพท์ : +65 6533 2323
โทรสาร : +65 6533 7029
เลขที่จดทะเบียนบริษัท : 201220131K

ลักษณะการประกอบธุรกิจ

บริษัท เอเชีย ไลม์ พีทีอี จำกัด (“ALS”) เป็น บริษัท ในเครือของบริษัท คาร์มิวส์ อีสเทิร์น พีทีอี จำกัด (“CE”) ซึ่งจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ จำกัด และถูกจัดตั้งขึ้นเป็นสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อแสวงหาโอกาสทางด้านการลงทุนที่เหมาะสมรวมถึงการขยายธุรกิจตามกลยุทธ์เพื่อการเติบโต โดยมีการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับปูนขาวและธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเคมีภัณฑ์ประเภทปูนขาวในภูมิภาคนี้ ในปัจจุบัน ALS มีการลงทุนที่สำคัญในประเทศไทยอยู่ที่ บริษัท ซีอี ไลม์ (ประเทศไทย) จำกัด (“CELT”) ซึ่งปัจจุบันถือหุ้นใน บริษัท สุธากัญจน์ จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วน 73.79%

ทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว

ALS มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 3,550,000เหรียญสหรัฐ มีมูลค่าที่ตราไว้ (Par value) เท่ากับ 1 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น ซึ่งเป็นหุ้นสามัญทั้งหมดจำนวน 3,550,000หุ้น

ผู้ถือหุ้นของบริษัท

ถือหุ้นทั้งหมดโดย บริษัท คาร์มิวส์ อีสเทิร์น พีทีอี (“CE”)

คณะกรรมการบริษัท

รายชื่อคณะกรรมการ บริษัท เอเชีย ไลม์ พีทีอี จำกัด ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2563

กลุ่มบริษัทคามุส (Carmeuse group) คือ กลุ่มบริษัทซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นทางอ้อม โดยเป็นกลุ่มของบริษัทตามโครงสร้างในกลุ่มบริษัทซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SUTHA ได้แก่ บริษัท ซีอีไลม์ (ประเทศไทย) จำกัด

Website : www.carmeuse.com

บริษัท Carmeuse ได้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1860 ในช่วงกลางของยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม โดยคุณ L?on Collinet ซึ่งดำเนินธุรกิจเหมืองแร่ ตั้งอยู่ที่เบลเยียม ในลักษณะธุรกิจครอบครัว ต่อมาบริษัทได้เติบโต ขึ้นและก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมหินปูนและผลิตภัณฑ์ปูนขาวที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก

บริษัท Carmeuse ประสบความสำเร็จในการรวบรวมเหมืองแร่ อิสระหลายๆ แห่ง มารวมเป็นหนึ่งเดียว และกลายเป็นบริษัทที่มี บทบาทสำคัญในเบลเยียม ทั้งยังได้ฝ่าฟันการต่อสู้และวิกฤตการณ์ใน ศตวรรษที่ 20 ต่างๆ มามากมายนอกเหนือไปจากหลักฐานทางสถิติ งบดุล อุปสรรค และความสำเร็จ เรื่องราวของการผจญภัยนี้ยังเป็นที่น่าจดจำ ซึ่งเป็นเรื่องราวของ "บรรดาพนักงานของ Carmeuse" นับพันๆ คนที่มีส่วนช่วยให้บริษัท Carmeuse กลายเป็นฐานอุตสาหกรรมของเบลเยียมที่สำคัญที่สุดระดับโลกมาตลอดทั้งศตวรรษ จากครึ่งหนึ่งของการทำงาน ความรักและความมุ่งมั่นของพวกเขาในช่วงต้นทศวรรษ 80 บริษัทได้ขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจออกไป เริ่มแรกไปที่ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และอิตาลี จากนั้นจึงขยายไปยังสหรัฐอเมริกาและแคนาดาอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษ 90 บริษัทยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจในตุรกีและแอฟริกาตะวันตกเมื่อก้าวสู่ศตวรรษใหม่ บริษัท Carmeuse ก็ได้นำเสนอมิติใหม่ในยุโรปกลางปัจจุบัน บริษัท Carmeuse คือบริษัทผู้ผลิตปูนขาวและผลิตภัณฑ์จากหินปูนระดับแนวหน้า อันได้แก่ ปูนขาวดิบ ปูนขาวไฮเดรต และแร่โดโลไมต์ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้ถูกนำมาใช้เป็นจำนวนมากเพื่อตอบสนองความต้องการที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เรื่องราวเกี่ยวกับอุตสาหกรรมประเภทนี้สามารถสร้างขึ้นและคงอยู่ได้ก็เพราะการยึดมั่นตามค่านิยมอย่างไม่มีสิ้นสุด ค่านิยมนั้นได้นำทาง "บรรดาพนักงานของ Carmeuse" มาตลอดเส้นทางในอดีตและยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้

กลุ่มบริษัทจีพี GP Group คือ กลุ่มบริษัทซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นทางอ้อม โดยเป็นกลุ่มของบริษัทตามโครงสร้างในกลุ่มบริษัทซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SUTHA ได้แก่ บริษัท ซีอีไลม์ (ประเทศไทย) จำกัด

Website : www.premjee.com

ประวัติบริษัท

เหตุการณ์สำคัญที่ช่วยกำหนดเส้นทางของ GP Group มาตลอดทั้งศตวรรษ

GP Group ได้ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในย่างกุ้ง ประเทศพม่า ในปี ค.ศ. 1868 โดยมีชื่อหลังจากบริษัทที่ตั้งโดยบุคคลสองคน Ketsee และ Devjee เป็นชื่อของ ผู้ค้าและบุตรชาย ว่าบริษัท Gangjee Premjee & Co ในฐานะบริษัทผู้เชี่ยวชาญในการซื้อขายข้าวที่มาจากประเทศพม่า เวียดนาม และไทย

ในปี ค.ศ. 1918 บริษัท Gangjee Premjee & Co ได้ย้ายฐานการปฏิบัติงานมายังประเทศไทยและChimanlal บุตรชายคนเดียวของ Premjee จึงกลายเป็นผู้ประกอบการค้าผู้เดียวที่ไม่ใช่ชาวจีนในกรุงเทพฯ หลังจากนั้นครอบครัว Premjee ได้เปลี่ยนนามสกุลมาใช้ "Shah" ซึ่งหมายถึง "ผู้ค้า" หรือ "ผู้ประกอบการ" ในอินเดียตะวันตกของรัฐคุชราต ต่อมา Chimanlal เป็นที่รู้จักกันในชื่อ "Shah of Bangkok" สำหรับการบริการของเขา ซึ่งเป็นการขยายนโยบายการเปิดเสรีทางการค้าให้กับชุมชนชาวอินเดียในประเทศ

ในปี ค.ศ. 1976 Chimanlal ได้สนับสนุนให้ Kirit ซึ่งเป็นบุตรชายของเขาออกเดินทางท่องเที่ยวรอบโลกเพื่อเสาะหาแนวคิดใหม่ ๆ พร้อมทั้งพบปะลูกค้าในปัจจุบันและผู้ที่อาจสนใจเป็นลูกค้าในอนาคต เมื่อเขากลับจากการเดินทาง เขาได้ค้นพบว่าบริษัทยังขาดความหลากหลาย จากวิสัยทัศน์ของเขา ทำให้บริษัท Gangjee & Premjee & Co เริ่มต้นซื้อขายสินค้าที่หลากหลายขึ้น

ในช่วงทศวรรษที่ 1980 Kirit ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานของกลุ่มบริษัท เขายังคงเดินหน้าสร้างความหลากหลายในสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น น้ำมันปรุงอาหาร และอาหารกระป๋อง รวมถึงเพิ่มอุตสาหกรรมหนัก เช่น ถ่านหินและเหล็ก นอกจากนี้ เขายังจัดตั้งบริษัทใหม่ รวมถึง บริษัทในไทยแห่งแรกเพื่อผลิตเภสัชเคมีภัณฑ์เป็นวัตถุดิบKirit ยังเป็นผู้นำในการเปิดตัวบริษัท Precious Shipping Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทเรือสินค้าเทกองแห้งแห่งแรกที่จดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ในช่วงปี ค.ศ. 1990 บริษัทได้เปลี่ยนชื่อเป็น G Premjee พร้อมเพิ่มการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และการก่อสร้างเข้ามา

ในปี ค.ศ. 1996 บริษัท G Premjee ได้เป็นเจ้าของหรือผู้มีส่วนได้เสียในบริษัทต่างๆ มากกว่า 150 บริษัท ปัจจุบัน บริษัทมีชื่อว่า GP Group ที่ภาคภูมิใจกับการฟื้นตัวอย่างชาญฉลาดในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจเอเชียปี ค.ศ. 1997

2002 Nishita บุตรสาวคนโตของ Kirit ได้เข้ามาช่วยบริหารธุรกิจในครอบครัว Shah หลังจากที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยบอสตัน เธอดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการในบอร์ดบริหารต่าง ๆ ตั้งแต่ธุรกิจด้านการขนส่งและเหมืองแร่ไปจนถึงเภสัชกรรมและการบิน

2006 ด้วยจำนวนเรือสินค้า 44 ลำ ทำให้บริษัท Precious Shipping Ltd. กลายเป็นบริษัทเดินเรือที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศไทย ผลการดำเนินงานด้านการเงินของบริษัทได้รับการจัดอันดับเป็น อันดับที่ 1 ในระดับสากลโดยนิตยสารที่น่าเชื่อถืออย่าง Marine Money.

2007 Nishita ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการผู้จัดการของ GP Group และกลายเป็นนักบริหารแนวใหม่ของกลุ่มบริษัท ทั้งยังติด 1 ใน 20 อันดับนักธุรกิจที่ร่ำรวยและมีอิทธิพลมากที่สุดของ Forbes Asia ด้วย

2013 เมื่อประธานบริษัท Kirit Shah อายุครบ 60 ปี ก็ถือเป็นการฉลองความสำเร็จของบริษัทครบ 145 ปี ในฐานะธุรกิจครอบครัวไปพร้อมๆ กัน

ข้อมูล ณ วันที่ : 31 พฤษภาคม 2563

ประวัติ :

ประสบการณ์ :

ข้อมูล ณ วันที่ : 31 พฤษภาคม 2563

ประวัติ :

ประสบการณ์ :

ข้อมูล ณ วันที่ : 31 พฤษภาคม 2563

ที่อยู่

ชั้น 13 อาคารเอดีอาร์ ตรอกซามูเอล เลวิชท์ ถนนที่ 58 ประเทศปานามา
โทรศัพท์ : +507 269 2255 / 264 8911
โทรสาร : +507 246 7033 / 269 1552
เลขที่จดทะเบียนบริษัท : 394388/194339

ลักษณะการประกอบธุรกิจ

บริษัท อีสเทิร์น เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศปานามา ประกอบธุรกิจเหมืองแร่ และการค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นปลาย และมีบริษัทย่อยที่มีการลงทุนในกิจการร่วมค้าและการลงทุนในหลายประเทศ รวมถึงประเทศสิงค์โปร์และโอมาน

ในประเทศสิงค์โปร์ บริษัท อีสเทิรน์ เอ็นเนอร์ยี่ ได้ดำเนินธุรกิจ 2 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าโดยการเช่าเหมาลำในการขนส่งทางเรือและอื่นๆ และธุรกิจซื้อมาขายไปในผลิตภัณฑ์ถ่านหิน นอกจากนี้ ในประเทศโอมาน บริษัท อีสเทิร์น เอ็นเนอร์ยี่ มีหุ้นในกิจการของบริษัท มาจาน ไมนิ่ง จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจเหมืองหินปูนที่ใหญ่ที่สุดในเมืองซาลาลาห์ ประเทศโอมาน และถือหุ้นส่วนน้อยในบริษัท คาร์มิวส์ มาจาน จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตหินปูนเพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออก

ทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว

EEI มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 100,000 เหรียญสหรัฐ มีมูลค่าที่ตราไว้ (Par value) เท่ากับ 100 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น ซึ่งเป็นหุ้นสามัญทั้งหมดจำนวน 1,000 หุ้น

ผู้ถือหุ้นของบริษัท

รายชื่อผู้ถือหุ้นของ EEI ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2563 มีดังนี้

คณะกรรมการบริษัท

รายชื่อคณะกรรมการ EEI ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2563 มีดังนี้

ข้อมูล ณ วันที่ : 31 พฤษภาคม 2563

ที่อยู่

8/25 คาเธ่ย์เฮ้าส์ชั้น 6 ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
โทรศัพท์ : 02-696-8720
โทรสาร : 02-696-8753
เลขที่จดทะเบียนบริษัท : 0105559150061

ลักษณะการประกอบธุรกิจ

บริษัท ซีอี ไลม์ (ประเทศไทย) จำกัด (“CELT”) ก่อตั้งขึ้นโดย นายอิษฎ์ชาญ ชาห์ และ บริษัท เอเชีย ไลม์ พีทีอี จำกัด เพื่อจุดประสงค์ในการลงทุนหรือถือครองหุ้นบริษัทอื่น ในธุรกิจสินค้าเคมีภัณฑ์ประเภทปูนขาวและธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเคมีภัณฑ์ประเภทปูนขาว

ทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว

CELT มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 175,000,000 บาท โดยมีมูลค่าที่ตราไว้ (Par value) เท่ากับ 100 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นจำนวนหุ้น 1,750,000 หุ้น โดยสามารถจำแนกได้เป็นหุ้นสามัญจำนวน 857,500 หุ้น และหุ้นบุริมสิทธิจำนวน 892,500 หุ้น

ผู้ถือหุ้นของบริษัท

รายชื่อผู้ถือหุ้นของ CELT ข้อมูล ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2563

หมายเหตุ :

• หุ้นของ นายอิษฎ์ชาญ ชาห์ จำนวนทั้งสิ้น 892,499 หุ้น และ หุ้นของ นายกริสนัน สูบรามาเนียน อายลู่ จำนวนทั้งสิ้น 1 หุ้น เป็นหุ้นประเภทหุ้นบุริมสิทธิ์ซึ่งสัดส่วนการมีสิทธิออกเสียงเท่ากับ 2 หุ้นบุริมสิทธิ์ต่อ 1 สิทธิออกเสียง
• หุ้นของบริษัท เอเชีย ไลม์ พีทีอี จำกัด จำนวนทั้งสิ้น 857,500 หุ้น เป็นหุ้นประเภทหุ้นสามัญ ซึ่งสัดส่วนการมีสิทธิออกเสียงเท่ากับ 1 หุ้นสามัญต่อ 1 สิทธิออกเสียง

คณะกรรมการบริษัท

รายชื่อคณะกรรมการ CELT ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2563 ประกอบด้วย

ข้อมูล ณ วันที่ : 31 พฤษภาคม 2563

ที่อยู่

89 อาคารคอสโม ออฟฟิต พาร์ค ชั้น 6 ยูนิตเอช
ถนนป๊อบปูล่า ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120
เลขที่จดทะเบียนบริษัท : 0125560007268

ลักษณะการประกอบธุรกิจ

บริษัท โกลเด้น ไลม์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (“GLE”) ก่อตั้งเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2560 ผู้ถือหุ้นหลักโดย บริษัท สุธากัญจน์ จำกัด (มหาชน) เพื่อให้คำปรึกษาด้านวิศวกรรมและบริการออกแบบ ผลิตและจำหน่ายเครื่องจักรอุปกรณ์ อะไหล่เครื่องจักรรวมถึงบริการให้คำปรึกษาและติดตั้ง

ทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว

GLE มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 20 ล้านบาท โดยมีมูลค่าที่ตราไว้ (Par value) เท่ากับ 10 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นจำนวนหุ้นสามัญจำนวน 2,000,000 หุ้น

ผู้ถือหุ้นของบริษัท

รายชื่อผู้ถือหุ้นของ GLE ข้อมูล ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2563

คณะกรรมการบริษัท

รายชื่อคณะกรรมการ GLE ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2563 ประกอบด้วย

อำนาจลงนามผูกพันบริษัท กรรมการสองคนลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญของบริษัท

ข้อมูล ณ วันที่ : -

คณะกรรมการของบริษัท สุธากัญจน์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ หรือ SUTHA”) ครั้งที่ 3/2562 ได้มีมติเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2562 พิจารณาการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัทฯ โดยบริษัทฯ จะรับโอนกิจการทั้งหมดจากบริษัท สระบุรีปูนขาว จำกัด ด้วยวิธีการโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer) โดยเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2562 อนุมัติการดำเนินการตามแผนดังกล่าว โดยมีมูลค่าการรับซื้อและรับโอนกิจการทั้งหมดประมาณ 209 ล้านบาท โดยเป็นมูลค่าในเบื้องต้นซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการบริหารของบริษัทซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2562 ได้เปิดเผยมูลค่าจากการประเมินมูลค่ายุติธรรม (Fair Value) โดยคำนวณจากราคาประเมินของที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ที่ประเมินโดยผู้ประเมินอิสระ และมูลค่าทางบัญชีของกิจการทั้งหมด อย่างไรก็ตามมูลค่าดังกล่าวสามารถปรับเปลี่ยนได้ ตามมูลค่าทางบัญชีของส่วนของผู้ถือหุ้นของ SQL ที่เปลี่ยนไป ณ วันที่เข้าทำรายการ โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้มอบหมายให้คณะกรรมการของบริษัท คณะกรรมการบริหาร กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัท หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายอำนาจจากคณะกรรมการของบริษัท คณะกรรมการบริหาร หรือกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนของ บริษัท มีอำนาจในการพิจารณาอนุมัติ กำหนดและ/หรือเปลี่ยนแปลง แก้ไข รายละเอียดและเงื่อนไข ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง กับการโอนกิจการทั้งหมดดังที่แถลงไว้ข้างต้น เช่น วันโอนกิจการ ราคา และวิธีการชำระค่าตอบแทน ตลอดจนการเข้า เจรจา ทำความตกลง และลงนามในเอกสารและสัญญาต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และการดำเนินการใดๆ อันจำเป็นและสมควร ที่เกี่ยวเนื่องกับการโอนกิจการทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการติดต่อกับส่วนราชการเกี่ยวข้อง โดยบริษัทได้แต่งตั้งให้ปรึกษากฎหมายและภาษีจากบริษัท สำนักภาษี เคพีเอ็มจี ภูมิไชย จำกัด เป็นที่ปรึกษาเพื่อดำเนินการสำหรับเรื่องดังกล่าวจนขั้นตอนการชำระบัญชีแล้วเสร็จ

การดำเนินการในการรับโอนกิจการทั้งหมดดังกล่าวได้ดำเนินการเสร็จสิ้นในวันที่ 1 ธันวาคม 2562 โดยมีมูลค่าการรับซื้อและรับโอนกิจการทั้งสิ้น 123.20 ล้านบาท โดยมูลค่าดังกล่าวเป็นราคามูลค่ายุติธรรม (Fair Value) โดยคำนวณจากราคาประเมินของที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ที่ประเมินโดยผู้ประเมินอิสระ และมูลค่าทางบัญชีของกิจการทั้งหมดของบริษัท สระบุรี ปูนขาว ณ วันที่ 30 พฤศจิการยน 2562 โดยบริษัทได้จดทะเบียนสถานประกอบที่ได้รับโอนจากบริษัท สระบุรีปูนขาว จำกัด เป็นที่ทำการสาขาแห่งที่ 4 และมีการโอนใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน รวมถึงใบอนุญาตในการดำเนินการทั้งหมดและกรรมสิทธิ์ในที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง สินทรัพย์อื่นๆ ได้แก่ เงินสด เงินฝากธนาคาร, ลูกหนี้การค้า และสินทรัพย์หมุนเวียนอื่น ๆ ทั้งหมดตลอดจนภาระหนี้สิ้นที่มีกับเจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้สถาบันการเงิน ให้กับ บริษัท สุธากัญจน์ จำกัด (มหาชน) ผู้รับโอนกิจการ และบริษัท สระบุรีปูนขาว จำกัด (บริษัทย่อย) ได้จดทะเบียนเลิกกิจการพร้อมแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีของบริษัท เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2562 กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์แล้ว ปัจจุบันบริษัทกำลังอยู่ในขั้นตอนการชำระบัญชี

เนื่องจากการปรับโครงสร้างของกลุ่มบริษัทดังกล่าวอยู่ภายใต้การควบคุมเดียวกันรายการดังกล่าวจึงไม่จัดเป็นรายการประเภทการได้มาซึ่งสินทรัพย์ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551 เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2551 และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องการเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน พ.ศ. 2547 ลงวันที่ 29 ตุลาคม 2547 และไม่เป็นการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ทจ. 21/2551 เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการเกี่ยวโยงกัน ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2551 และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในรายการเกี่ยวโยงกัน พ.ศ. 2546 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2546 แต่เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 107(2)(ข) แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 จึงให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติ

การรับโอนกิจการทั้งหมดจาก SQL เพื่อให้บริษัท SUTHA ดำเนินธุรกิจเพียงบริษัทเดียว โดยขั้นตอนที่ดำเนินการ ดังนี้

การปรับโครงสร้างด้วยวิธีการโอนกิจการทั้งหมดจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและก่อให้เกิดประโยชน์แก่กลุ่มบริษัทฯ ดังนี้

• บริษัทจะเป็นผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าเคมีภัณฑ์ประเภทปูนขาวเพียงบริษัทเดียวโดยเป็นการเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารงานและการดำเนินงานของบริษัททั้งทางธุรกิจและทางกฎหมายทั้งในส่วนของการขออนุมัติการดำเนินการต่างๆ จากทั้งกรรมการและผู้ถือหุ้น
• การปรับโครงสร้างโดยให้บริษัทฯ ซึ่งเป็นบริษัทมหาชนจำกัดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เป็นผู้รับโอนกิจการและเป็นผู้ดำเนินธุรกิจโดยตรงจะส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ มีความน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น อันเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่คู่ค้า ผู้ร่วมลงทุน หรือตัวแทนจำหน่ายในกรณีที่กลุ่มบริษัทฯ จะขยายกิจการต่อไปในอนาคต
• การปรับโครงสร้างด้วยวิธีการรับโอนกิจการดังกล่าวจะทำให้การทำรายการระหว่างกันกับบริษัทย่อยลดลงและจะสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของธุรกิจในการผลิตและจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ปูนขาวของกลุ่มบริษัท ช่วยลดต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นด้วย และวิธีการโอนกิจการทั้งหมดบริษัทจะใช้ค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด และประหยัดภาษีที่สุดด้วย
• การโอนกิจการทั้งหมดได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ของประมวลรัษฎากร โดยไม่มีภาระภาษีเงินได้ที่เกิดจากการโอนทรัพย์สิน ตามมาตรา 74(ข)(ค) และได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มเนื่องจากไม่ถือเป็นการขายตามมาตรา 77/1(8)(ฉ) รวมถึงภาษีที่เกี่ยวข้องเช่น ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์